GoodToKnow.PureThailand.com รวมเรื่องน่ารู้จาก forward mail
RSS icon Home icon
  • ชีวิตคน กับ ผ้าขี้ริ้ว

    Posted on March 30th, 2011 goodtoknow No comments

    1.ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
    เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข
    พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย
    ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ

    2.ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้
    แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา
    เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว
    มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด

    Read the rest of this entry »

  • ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใด

    Posted on March 14th, 2011 goodtoknow No comments

    ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง

    คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้นแต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น

    แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้งและเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้ คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้นแต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน

    บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆและเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุดแต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที

    ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน? แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน

    Read the rest of this entry »

  • เหยือกเต็มหรือยัง ?

    Posted on February 16th, 2010 goodtoknow No comments

    ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียมการสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด

    เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจ

    เมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้ว ขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม

    ‘ พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง ?’ เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท
    แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน ‘ เต็มแล้ว… ‘

    เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ

    Read the rest of this entry »

  • คาถา 6 Ps – ช่วยทำงานอย่างมีความสุข

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    คาถา 6 Ps
    ให้หมั่นท่องไว้เสมอ แล้วจะเป็นคนทำงานที่มีความสุข มีผู้ชื่นชอบ อยากให้การสนับสนุน มีดังนี้

          1. Positive Thinking คือ การคิดบวก การมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่เป็นบวกอยู่เสมอ จะไม่มองอะไรในแง่ร้ายเลย ใครทำได้อย่างนี้จะไม่มีปัญหากันคนเลย

          2. Peaceful Mind การมีจิตใจที่สงบ จะสร้างความสุขที่คนอื่นต้องอิจฉา เพราะใจเราจะไม่ดิ้นรน นิ่ง  ไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ที่มีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง

          3. Patient คือ การที่มีความอดทน คนเราจะให้ทุกอย่างเป็นตามใจเราคงยาก มันต้องมีช่วงที่เป็นของคนอื่นบ้าง แต่ถ้าเรารู้จักอดกลั้น อดทน  รอคอยให้ถึงช่วงของเรา การแก่งแย่งชิงดี ย่อมไม่เกิดผลดี

          4. Punctual คือ การตรงต่อเวลา การมีวินัย บ้านเราชอบหาข้อแก้ตัว รออีกหน่อยไว้ให้ลูกหลานเรามีวินัยก็แล้วกัน ทำไมเราไม่ทำเป็นตัวอย่าง  นิ้วก้อยกับนิ้วหัวแม่มือ แม้มีขนาดไม่เท่ากันก็อยู่ในมือเดียวกัน ต้องทำหน้าที่พร้อมกันในเวลาหยิบของ จะเกี่ยงว่าตัวเล็กตัวใหญ่ไม่ได้ อย่าผิดคำพูด อย่าผิดนัด คนเป็นใหญ่ชอบไปงานช้า  เพราะคิดว่าตนสำคัญคนอื่นต้องรอ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ คิดผิดนะ

          5. Polite คือ ความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีตัวนี้มาก มีมากเท่าใดคนอื่นจะยิ่งเกรงมากขึ้นเท่านั้น  ยกตัวอย่างเรื่องรวงข้าวที่มีเมล็ดข้าวมากเท่าใด ก็ยิ่งโน้มลงติดดินมากเท่านั้นช่อนั้นจะมีค่ามาก เพราะให้ผลผลิตดีกว่าช่อที่ยืนล้อลมได้สูงๆ แต่ไม่มีเมล็ด  เกี่ยวไปแล้วก็ทิ้งเป็นฟาง เอาไปสีก็เปล่าประโยชน์

          6. Professional หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ในงานของตนต้องรู้ ต้องทำอย่างดีที่สุด ต้องมีความรู้ ความสามารถอย่างมืออาชีพ ทำหน้าที่ให้เหมาะสม หมั่นฝึกปรือแสวงหาความรู้ให้ทันสมัยทันโลก

          คาถาทั้งหกข้อนี้จะทำให้คุณมีจิตใจดี สงบ มุ่งมั่นอยู่กับงาน มองโลกในแง่บวก รู้ตน รู้สถานะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน พกสูตรนี้ไว้ โตวันโตคืน

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • ชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูก

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    หากชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูกสลับกันไปในอากาศคล้ายนักเล่นกล บอลทั้ง 5 เปรียบได้กับ งาน, ครอบครัว, สุขภาพ, เพื่อน และจิตใจ เราคงต้องบอกว่า งานนั้นคงต้องเป็นลูกบอลยาง ซึ่งแม้ว่าเราจะพลาดพลั้งทำตกกี่ครั้งมันก็สามารถที่จะกระเด้งกระดอนกลับมาให้เรานำกลับมาเล่นต่อได้ แต่บอลอีก 4 ลูกที่เหลือ คือ ครอบครัว สุขภาพ เพื่อน และจิตใจนั้นเป็นเช่นลูกแก้ว การพลาดพลั้ง ทำลูกใดลูกหนึ่งตกไปนั้น แม้เป็นเพียงแค่รอยถลอก รอยตำหนิเล็กๆ รอยหักแหว่ง หรือแตกละเอียด ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นลูกแก้วที่แววใสดังเดิมได้

    ดังนั้นเราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า…..ชีวิตเราคือ…..การต่อสู้ประคับประคองบอลทั้ง 5 ลูกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงให้สมดุลมากที่สุด….. ทำอย่างไรน่ะหรือ ?? อย่างแรก…..
    ** จงอย่าประเมินค่าของตัวเองให้ต่ำต้อย โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นพึงระลึกเสมอว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และทุกคนก็มีความพิเศษเป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า โดยการปล่อยเวลาให้ผ่านไป

    ** จงคิดว่าทุกๆวันที่ผ่านพ้นไปคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่าเพิ่งละความพยายามเมื่อเจอปัญหา จงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นเมื่อคุณทิ้งความพยายามของคุณเอง

    ** จงอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนผมเส้นบางๆที่บังตาไม่ให้คุณมองเห็นผู้คน รอบข้าง

    ** จงอย่ากลัวการเสี่ยง เพราะมันคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ

    ** อย่าทิ้งความรักไปจากชีวิต โดยการบอกว่ามันไม่มีทางที่จะหาพบหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับ… ความรักคือการรู้จักให้ และการรักษาความรักที่ดีที่สุดคือ…การให้อิสระกับมัน จำไว้ว่ายิ่งคุณพยายามไขว่คว้ามันไว้กับตัวคุณมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะจากไปจากคุณได้เร็วเท่านั้น

    ** อย่าพิจารณาชีวิตของคุณเร็วเกินไป จนคุณลืมที่จะนึกว่าคุณมาจากที่ไหนและ…คุณกำลังจะไปที่ใด พึงตระหนักว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องการคือ…ความประทับใจ

    **จงอย่ากลัวการรับรู้ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ความรู้นั้นไร้น้ำหนัก…แต่เป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่มันจะติดตัวคุณไป และจะไม่มีใครที่สามารถขโมยมันไปจากคุณได้

    **จงใช้เวลาและคารมอย่างระมัดระวังเพราะทุกสิ่งที่ผ่านไปจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันจะไหลย้อนกลับ

    ** จงรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน แต่ชีวิตคือ.. การเดินทางคือ…การสัมผัสรับรู้ในแต่ละก้าวที่เดินไป

    ** และคนที่อยู้ใกล้ชิดคุณที่สุดหรือคนรักของคุณคุณควรจะถนอมน้ำใจเค้าให้มากการที่เค้าเรียกร้อง หรือทำให้ชีวิตส่วนตัวคุณหายไปบ้างนั่นคือเค้ายังรักคุณอยู่แต่ถ้าถึงวันไหนที่เค้าไม่ต้องการจากคุณอีกต่อไป ถึงแม้คุณจะคิดได้ในภายหลัง เค้าอาจจะไม่ต้องการอะไรจากคุณอีกเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นโปรดระลึกอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน

    ** และสุดท้าย จงจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ……..

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า