GoodToKnow.PureThailand.com รวมเรื่องน่ารู้จาก forward mail
RSS icon Home icon
  • หนุ่มไฟแรง

    Posted on September 6th, 2009 goodtoknow No comments

    มีชายหนุ่มไฟแรง ที่มุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว เธอจะมารอ..ที่หน้าประตูบ้าน..ของเขา หลังจากที่เขาเลิกงาน เขาพบเธอ..ก็ยิ้มแย้ม ..ยินดีต้อนรับ.. สนทนากัน..แล้วเธอก็กลับไป

    วันนี้เขากลับถึงบ้าน ช้ากว่าปกติมาก แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอที่หน้าบ้านเขา.. เช่นทุกวัน

    “โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วน เลยกลับมาช้าไปหน่อย”

    เธอยังยิ้มให้เขา “คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว ทำไมยังทำงานหนักอีกล่ะ?”

    “ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้ มีรถที่ดูโอ่อ่ามากกว่านี้ ..เพื่อคุณนะจ๊ะ”

    เวลาผ่านไป 1 ปี
    หญิงสาวมาหาเขาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้

    Read the rest of this entry »

  • จงเชื่อมั่นในตนเอง กับ กบฟุ้งซ่าน

    Posted on June 13th, 2009 goodtoknow No comments

    กบ ฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมาถึงวัดเพื่อฉันเช้า… กบมันนึกในใจ อยากเกิดเป็น “พระ” เป็น พระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน ..

    เมื่อพระฉันเสร็จ ก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย .. ตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็น “เด็กวัด” แล้วเพราะสบายกว่าพระ มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้ สบายกว่าเยอะเลย…

    เมื่อเด็กวัดกินเสร็จ ก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกิน แล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกันล้างจาน… ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็น “หมาวัด” แล้ว เพราะไม่ต้องล้างจานเหมือนเด็กวัด สบายกว่า …

    พอหมาวัดกินอาหารเสร็จ ก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด คอยเห่าคนแปลกหน้า ฝูงแมลงวันก็บินมาตอม และกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจอยากเกิดเป็น “แมลงวัน” เพราะสบายที่สุด…. ไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย…

    ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวันเข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ  ..

    ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่าน จึงบรรลุธรรมฉับพลัน  (Sudden knowledge)
    คิดได้ว่า เฮ้อ เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดเลย ( The best to be yourself)
    จงเชื่อมั่นในตัวเอง ( Be yourself)

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • วิธีคิด วิธีทำงาน “ในวันนี้”

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    ในวันนี้ ฉันจะเป็นมิตรกับทุกคนที่ทำงานด้วยให้มากที่สุด จะปฎิบัติเสมือนหนึ่งว่า คนเหล่านั้นมีส่วนให้ฉันได้ทำงานที่นี่ต่อไป และขอขอบคุณที่มีพวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงาน

    ในวันนี้ ฉันจะไม่ทำตัวเป็นคนช่างตำหนิติเตียน จะพยายามมองเห็นข้อดีในทุกสถานการณ์ และหาข้อดีมาชมเชยทุกคนในที่ทำงานด้วย

    ในวันนี้ ฉันจะไม่ยืนกรานว่า ทุกสิ่งฉันทำจะต้องสมบูรณ์เพียบพร้อม จะไม่พยายามทำลายสถิติความเร็วใดๆ จะทำงานทุกอย่างตรงหน้าเต็มกำลังความสามารถ แต่ไม่ใช่ด้วยความรู้สึกบีบคั้นจนทุกข์ทรมาน

    ในวันนี้ ฉันคิดว่าตนเองมีความสามารถพอที่จะทำงานในความรับผิดชอบ จะไม่มัวมาตั้งคำถามอย่างไม่จบสิ้นว่า มีตำแหน่งที่เหมาะสมและได้รับคุ้มค่าเหนื่อยแล้วหรือ

    Read the rest of this entry »

  • อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น ….
    ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ
    แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ …..

    เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง แอนดี้ก็ก้มหน้างุด และทำท่ากระสับกระส่าย
    เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิดแม้จากระยะไกล

    ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
    และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น รอคอยที่จะถูกทำโทษ

    Read the rest of this entry »

  • จะทำอะไร ทำให้เต็มที่

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    ทำงานให้เหมือนกับคุณไม่ต้องการเงิน
    รักให้เหมือนกับคุณไม่มีวันจะเจ็บปวดกับมัน
    และเต้นรำให้เหมือนกับไม่มีใครมองคุณอยู่

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • บทเรียนแห่งชีวิต 5 – ให้เมื่อมันมีค่า

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    บทเรียนสำคัญที่ห้า – ให้เมื่อมันมีค่า

    หลายปีมาแล้ว เมื่อฉันไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ฉันได้รู้จักกับเด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ ลิซ ซึ่งป่วยเป็นโรคร้ายที่มีน้อยคนที่จะเป็น โอกาสที่เธอจะหายจากโรคนี้ได้คือ ต้องทำการถ่ายเลือดจากน้องชายอายุห้าขวบของเธอ ผู้ซึ่งรอดจากโรคร้ายนี้ได้อย่างปาฏิหาริย์ จึงทำให้เขาร่างกายเขาสร้างภูมิคุ้มกันโรคร้ายนี้ขึ้นมา

    หมออธิบายสถานการณ์ให้น้องชายของเธอฟัง และถามเด็กชายว่าเขาต้องการจะให้เลือดของเขาแก่พี่สาวหรือไม่ ฉันเห็นเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสูดหายใจลึกแล้วพูดว่า “ได้ครับ หากมันช่วยพี่สาวผมได้” เมื่อทำการถ่ายเลือด เขานอนยิ้มอยู่ที่เตียงข้างๆพี่สาว ในขณะที่เราเริ่มจะเห็นสีสันคืนสู้แก้ม ของเธอ หน้าของเด็กชายก็เริ่มซีดและรอยยิ้มก็จางหายไป ชายมองไปที่หมอและถามด้วยเสียงสั่นเครือ “ผมกำลังจะตายใช่ไหม?”

    ด้วยความเป็นเด็ก เขาเข้าใจหมอผิดไป เด็กชายคิดว่าเขาต้องให้เลือดทั้งหมดของเขาให้แก่พี่สาวเพื่อช่วยชีวิตเธอ ซึ่งเขาก็ยังตัดสินใจที่จะถ่ายเลือด แม้จะทำให้เขาต้องตายก็ตาม 

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • บทเรียนแห่งชีวิต 4 – สิ่งที่กีดขวางทางของเรา

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    บทเรียนสำคัญที่สี่ – สิ่งที่กีดขวางทางของเรา

    ในยุคโบราณมีหินผาตกลงมาขวางถนนเส้นหนึ่ง
    เมื่อพระราชามาพบเข้าจึงซ่อนพระองค์อยู่
    เพื่อคอยดูว่าจะมีใครมาเอาหินใหญ่ก้อนนั้นออกไปจากทาง

    เมื่อเสนาบดีในราชสำนักของพระองค์ และพ่อค้าผู้ร่ำรวยผ่านมาก็เพียงแต่อ้อมหินผาก้อนใหญ่นั้นไป พวกเขากล่าวตำหนิพระราชาต่างๆนานาที่พระองค์ไม่ใส่พระทัยที่จะดูแลทางนั้นให้ดี แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรที่จะเอาหินนั้นออกไปให้พ้นทาง

    จนกระทั่งชาวบ้านคนหนึ่งแบกผักกองใหญ่ผ่านมา เมื่อเขาเดินมาถึงหินผานั้น เขาก็วางสัมภาระลง แล้วพยายามที่จะขยับก้อนหินนั้นให้พ้นทาง หลังจากทั้งผลักทั้งดึงหินก้อนนั้น ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

    เมื่อเขาหยิบสัมภาระของเขาขึ้นมา ก็เห็นถุงเงินวางอยู่ตรงจุดที่ก้อนหินผาเคยอยู่ ในถุงนั้นมีเหรียญทองและจดหมายจากพระราชา เขียนไว้ว่า “ทองในถุงนั้นเป็นของผู้ที่เอาหินผาออกไปจากถนน ชาวบ้านคนนั้นได้รู้สิ่งที่เราไม่เคยได้รู้ ทุกๆอุปสรรคที่กีดขวางทางนั้น จะมอบโอกาสที่เราจะดีขึ้นให้กับเรา

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • บทเรียนแห่งชีวิต 3 – เด็กน้อยซื้อไอศครีม

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    บทเรียนสำคัญที่สาม – ระลึกถึงคนที่ให้บริการเสมอ

    ในสมัยที่ไอศครีมซันเดยังมีราคาถูกอยู่มาก
    เด็กชายอายุสิบขวบคนหนึ่งเข้าไปในคอฟฟี่ชอปของโรงแรมแห่งหนึ่งแล้วนั่งที่โต๊ะ

    เมื่อพนักงานเสริฟวางแก้วน้ำลงตรงหน้า เด็กชายก็ถามว่า “ไอศครีมซันเดราคาเท่าใหร่ครับ?”
    “ห้าสิบเซ็นต์” พนักงานเสริฟสาวตอบ

    แล้วเด็กชายก็ดึงมือออกจากกระเป๋า แล้วก็นับเ หรียญในมือ
    “งั้น ไอศครีมเปล่าๆล่ะครับราคาเท่าใหร่?” เด็กชายถามอีก

    ตอนนี้เริ่มมีคนรอโต๊ะมากขึ้นและพนักงานเสริฟสาวก็เริ่มจะหมดความอดทน
    “สามสิบห้าเซ็นต์” เธอตอบห้วนๆ

    เด็กชายนับเหรียญในมืออีกครั้ง
    “ผมขอไอศครีมเปล่าครับ” เด็กชายบอก

    แล้วพนักงานเสริฟสาวก็เอาไอศครีมมาให้ เอาใบเสร็จมาให้แล้วก็เดินหนีไป
    เด็กชายทานไอศครีมหมดแล้ว ก็จ่ายเงินแล้วก็จากไป

    เมื่อพนักงานเสริฟเดินกลับมา เธอก็เริ่มร้องไห้เมื่อเธอเช็ดโต๊ะบนโต๊ะนั้น
    มีเหรียญนิกเกิลราคาห้าเซ็นต์สองเหรียญ และเหรียญเพนนีอีกห้าเหรียญวางอยู่อย่างบรรจงข้างถ้วยไอศครีมเปล่านั้น
    เห็นไหมว่า ที่เด็กชายไม่ทานไอศครีมซันเดเพราะเขาต้องเหลือเงินไว้ทิปพนักงานเสริฟสาวคนนั้น

     แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • บทเรียนแห่งชีวิต 2 – รับคนกลางฝน

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    บทเรียนสำคัญที่สอง – รับคนกลางฝน

    คืนหนึ่ง เวลา 23:30 น. สตรีสูงอายุเชื้อสายแอฟริกันคนหนึ่ง
    ยืนอยู่ริมทางหลวง สาย บามา ต้านฝนที่ตกหนักอยู่
    รถของเธอเสีย และเธอต้องการเดินทางต่อไปอย่างมากแม้จะเปียกโชก
    เธอตัดสินใจโบกรถคันที่วิ่งผ่านมา ชายหนุ่มผิวขาวผู้หนึ่งหยุดรถเพื่อช่วยเหลือเธอ
    ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในยุคที่มีความขัดแย้ง เรื่องการเหยียดผิวอย่างทศวรรษที่ 60
    ชายหนุ่มช่วยเหลือให้เธอได้รับความปลอดภัยและส่งเธอขึ้นรถแท๊กซี่ แม้ว่าเธอจะเร่งรีบมาก
    แต่ก็ขอบคุณเขา และจดที่อยู่ของเขาไปด้วย เจ็ดวันหลังจากนั้น
    ก็มีชายคนหนึ่งมาเคาะประตูบ้านของเขาด้วยความประหลาดใจ
    โทรทัศน์สีจอยักษ์เครื่องหนึ่งถูกนำมาส่งยังบ้านของเขาและมีข้อความแนบ มาด้วย
    ใจความว่า: “ขอบพระคุณมากสำหรับความช่วยเหลือบนทางหลวงในคืนนั้น
    ฝนไม่ได้ชะแต่เพียงเสื้อผ้าของฉันเท่านั้น แต่ชะเอากำลังใจของฉันไปด้วย
    แต่เมื่อคุณผ่านมา เป็นเพราะคุณ ฉันจึงสามารถไปทันดูใจสามีที่กำลังจะเสียชีวิต
    ทันเวลาก่อนที่เขาจะสิ้นลมพอดี ขอพระเจ้าอวยพรคุณ สำหรับการช่วยฉัน
    และการช่วยเหลือผู้อื่น อย่างไม่เห็นแก่ตัวของคุณ
    ”  ด้วยความจริงใจ นาง แนท คิง โคล

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • บทเรียนแห่งชีวิต 1 – คนทำควาสะอาด

    Posted on June 7th, 2009 goodtoknow No comments

    บทเรียนสำคัญบทแรก – คนทำความสะอาด

    เมื่อครั้งที่ฉันเข้าเรียนในวิทยาลัยได้สองเดือน อาจารย์ให้พวกเราทำแบบทดสอบอันหนึ่ง
    ฉันเป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียน จึงตอบคำถามได้อย่างสบาย
    จนมาถึงคำถามสุดท้าย “สุภาพสตรีที่เป็นคนทำความสะอาดโรงเรียนชื่อว่าอะไร?”

    ต้องเป็นเรื่องตลกอะไรสักอย่างแน่ ฉันเคยเจอคนทำความสะอาดหลายครั้ง
    เธอเป็นคนตัวสูง ผมดำ และอายุกว่า 50 แต่ฉันจะรู้ชื่อเธอได้อย่างไร?
    ฉันส่งกระดาษคำตอบ โดยไม่ได้ตอบข้อสุดท้าย

    ก่อนหมดคาบเรียน นักศึกษาคนหนึ่งถามว่า
    คำถามข้อสุดท้ายจะถูกคิดรวมในคะแนนของผลการเรียนด้วยหรือไม่

    “แน่นอน” อาจารย์ตอบ
    เพราะเมื่อเธอเข้าทำงาน เธอจะต้องพบกับคนมากมาย ซึ่งทุกคนมีความสำคัญพอ ที่สมควรจะได้รับความสนใจและเอาใจใส่ แม้ว่าพวกเธอจะทำได้แค่เพียงยิ้มให้และกล่าวสวัสดีก็ตาม

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า