GoodToKnow.PureThailand.com
GoodToKnow.PureThailand.com รวมเรื่องน่ารู้จาก forward mail-
คิดบวก ชีวิตบวก โดย ท่าน ว. วชิรเมธี
Posted on May 4th, 2011 No comments -
ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก : วอร์เรน บัพเฟตต์ (Warren Buffet)
Posted on April 26th, 2011 No commentsมีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิล เกตส์)
ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง 31 , 000 ล้านดอลล่าร์ (เป็นเงินไทยก็ราวๆ 1,000,000,000,000 อ่านว่า 1 ล้าน ล้านบาท โอ้แม่เจ้า)ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา :
1) เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2) เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3) เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการ
ในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม4) เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5) เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
6) บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7) เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ
กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย
กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 18 ) เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9) บิล เกตส์ คนที่รวยที่ สุดในโล เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10) วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11) เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า :
ที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเองกินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
-
บินให้ถึงฝัน
Posted on April 26th, 2011 No comments“ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา…
จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร
แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ” -
น้ำใจ
Posted on April 6th, 2011 No commentsวันก่อนโชคดีทีจองตัวรถได้กลับไปเยี่ยมบ้านแม่ พอขึ้นรถกลับเห็นมีหญิงคนหนึ่งนั่งบนที่นั่งเรา สามีสะกิดให้ฉันนั่งข้างตัวเธอ แต่ไม่ยักทวงคืนที่นั่งจากหญิงนั้น ฉันสังเกต เห็นขาขวาของเธอไม่สมประกอบจึงเข้าใจเหตุผลทีสามีไม่ทวงคืนที่นั่ง
สามียืนตังแต่ต้นทางอําเภอเจียอี จนกระทังถึงกรุงไทเปโดยไม่เอ่ยปากทวงคืนที่นั่งจากหญิง เมือถึงปลายทางลงจากรถแล้วฉันถามสามีด้วยความห่วงใยในความเมื่อยล้า “เอือเฟือที่นั่งก็ถือว่าใจบุญสุนทานอยู่จริง แต่จากเจียอีถึงไทเประยะทางยาวนานเช่นนี้ ก็น่าจะขอให้เธอลุกขึ้นยืนสับเปลี่ยนให้คุณนั่งบ้าง”
สามีกลับตอบว่า “คนเขาต้องทนความยากลําบากตลอดชีวิต เราแค่ไม่สะดวกสบายเพียง 3 ชั่วโมงเอง” ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้ยินสามีพูดเช่นนี้ มีสามีคนดี ใจเมตตาชอบปิดทองหลังพระแบบนี้ทําให้ฉันรู้สึกว่าโลกนี้อบอุ่นขึ้น น่าอยู่เป็นนักหนา
เมื่อปรับเปลี่ยนจิตใจ โลกก็จะเปลี่ยนไปด้วยเรืองทุกอย่างในชีวิตคนเราย่อมปรับทิศทางได้ ขึ้นอยู่กับเราคิดอย่างไร ปรับอย่างไร
เราอาจไม่ประสบความสําเร็จภายใน 3 นาที แต่ชีวิตเราอาจเปลียนได้โดยใช้เวลาเพียง 1 นาทีแหล่งข้อมูล: Forword Mail
-
หนูน้อย กับความหวังอันยิ่งใหญ่
Posted on April 6th, 2011 No commentsณ ชุมชนเล็กๆ แห่งหนึงฝนแล้งมานานแล้ว พืชผลเสียหายหนัก พระจึงระดมชาวบ้านเตรียมประกอบพิธีขอฝนในวัด
เด็กหญิงคนหนึงแทรกตัวอยู่ในกลุ่มคนผู้ขอฝนด้วย เนืองจากตัวเธอเล็ก จึงเกือบจะไม่มีใครสังเกตเห็นทันใดนัน พระเห็นสิงทีเด็กหญิงถืออยู่ จึงพูดอย่างตืนเต้นพลางชีไปยังตัวเธอ “หนูน้อยนันทําให้อาตมาซาบซึงมาก”กลุ่มชาวบ้านจึงมองไปยังทิศทางที่ชี้
พระพูดต่อ “วันนีเรามาอธิษฐานขอฝนกันแต่ในทีประชุมแห่งนีไม่มีใครนําร่มมาเลยนอกจากเด็กหญิงคนนี้”ทุกคนมองไปยังเธอ เห็นเธอมีร่มสีแดงอยู่ข้างตัวจริงๆ หลังจากสงบเงียบชัวครู่เป็นเสียงปรบมือสนันหวันไหวประสานกับน้าตาทีแสดงความซาบซึ้งใจ
บางครังเราอดไม่ได้ทีจะกล่าวว่า เด็กเล็กจริงๆ แล้วไม่เล็กเลยพวกเธอใหญ่มาก มีจิตใจรักทียิงใหญ่ มีจิตใจเชื่อมั่นทียิ่งใหญ่แหล่งข้อมูล: Forword Mail
-
น้ำใจ จากหัวใจดวงน้อย
Posted on April 6th, 2011 No commentsหญิงโสดคนหนึงย้ายบ้านใหม่ พบว่าข้างบ้านเป็นครอบครัวยากจน ประกอบด้วยแม่หม้ายและลูกอีกสอง
อยู่มาคืนหนึ่ง ไฟฟ้าเกิดดับ หญิงคนนันจึงจุดเทียนไข สักพักมีคนมาเคาะประตู เป็นเด็กข้างบ้านนันเองเด็กถามอย่างตืนเต้นว่า “คุณน้า ในบ้านมีเทียนไขไหม”
หญิงคิดในใจ “บ้านเขาจนถึงขนาดไม่มีเทียนไขรึ ช่างหัวมันเถิด เดียวได้คืบจะเอาศอก”
หญิงจึงตอบเด็กแบบมะนาวไม่มีน้าว่า “ไม่มี”ขณะทีหญิงเตรียมจะปิดประตูส่งแขก เห็นเด็กหน้าตายิ้ม“นึกแล้วว่าไม่มี” พอพูดจบ เด็กควักเทียนไข 2 เล่มออกจากอกเสื้อ“แม่ฉันห่วงว่าคุณน้าอยู่คนเดียวคงไม่มีเทียนไข จึงเอามาให้คุณน้า 2 เล่ม”ทันใดนันเอง หญิงรู้สึกสะเทือนใจจนน้าตาคลอ กอดเด็กไว้แน่น
แหล่งข้อมูล: Forword Mail
-
ชีวิตคน กับ ผ้าขี้ริ้ว
Posted on March 30th, 2011 No comments1.ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด
เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข
พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย
ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้มอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ2.ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้
แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา
เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว
มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด -
เมียทั้งหลาย
Posted on March 21st, 2011 No commentsเมียหลวง
คือ ภรรยาที่เคยดีที่สุดในอดีต แต่กาลเวลาและสิ่งแวดล้อมทำลายความดีของเธอ
จนหมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้น และทิ้งความโหดร้ายไว้ให้เธอต้องรับผลกรรม คือ
ความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น แก่ง่าย ตายยาก พูดมาก กินจุ อ้วนเหมือนหมู ดุเหมือนเสือเมียเก็บ
คือ อาหารพิเศษ มีรสชาติแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไป เหมาะที่จะกินเป็นครั้ง
เป็นคราว เพื่อแก้เลี่ยน เป็นสินค้ายอดนิยมและมีราคาแพง เงื่อนไขเยอะ -
รวมคำคม คติสอนใจ
Posted on March 21st, 2011 No commentsท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย
อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา
พักได้ แต่อย่าหยุดเหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคนอีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวังเริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไปหลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้ว พรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน -
สิ่งที่ชาวญี่ปุ่นใช้รับมือกับภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ
Posted on March 19th, 2011 No commentsสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นใช้รับมือกับภัยธรรมชาติร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ
ติดตามข่าวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุน อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรก
ด้วยความรู้สึกตกตะลึงและตามมาด้วยความน่าสะพรึงกลัวต่อพลังมหาศาลของธรรมชาติด้วย ความสงสาร และ เห็นใจอย่างจับใจ
ต่อทุกข์แสนสาหัส ที่ประชาชนญี่ปุ่นประสบอยู่ในปัจจุบัน
ในระหว่างติดตามดูข่าวทางโทรทัศน์ และ อินเตอร์เนตเหล่านี้… ท่ามกลางความโหดร้ายน่ากลัว เรากลับพบความดีงามที่ทำให้เรา
รู้สึกทึ่งและชื่นชม นั่นคือ ความสงบ นิ่งของชาวญี่ปุ่น ภายหลังเหตุการณ์รุนแรง ที่ทำลายชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพ
เราไม่พบข่าวการบุกทุบร้านสะดวกซื้อ เพื่อแย่งชิงอาหาร น้ำ ฯลฯ ทั้งที่ทุกแห่ง ต่างขาดแคลนอย่างสาหัส แต่สิ่งที่เราพบเห็นตามข่าว
ก็คือ “วินัย” ของชาวญี่ปุ่น ที่อดทน รอคอย และ ร่วมด้วยช่วยกัน ทำให้รู้สึกว่าสิ่งนี้นั่นเองที่จะเป็น “เคล็ดลับ” สำคัญที่สุด
ที่ชาวญี่ปุ่นใช้เพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติร้ายแรงในครั้งนี้
ลองจินตนาการดูนะคะว่า หากปราศจาก ความอดทน วินัย เช่นนี้ สถานการณ์ที่เลวร้ายในปัจจุบัน จะยิ่งเพิ่มความร้ายแรงมากขึ้นเพียงใด ???วันนี้ OPEN UP ขอเผยแพร่เรื่องราวน่าประทับใจที่ได้ไปอ่านเจอ จากนักเรียนไทยในญี่ปุ่นที่เปิดเผยบรรยากาศหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่
และคลื่นยักษ์สึนามิถล่มใน Twitter ของเขา และมีคนนำมาแปลเป็นภาษาไทยค่ะ เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤติการณ์ในประเทศญี่ปุ่น..
Read the rest of this entry »