-
นิทาน.. หัวหน้า เจ้านาย 3/3
Posted on May 11th, 2009 No commentsเมื่อครั้งอวัยวะต่างๆ รวมตัวกันเป็นร่างกายมนุษย์ในครั้งแรก อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกายต่างต้องการจะเป็นเจ้านายใหญ่
สมองพูดขึ้นว่า “ฉันควรจะเป็นนายใหญ่ เนื่องจากฉันควบคุมการทำงานทุกส่วนของร่างกาย”
เท้าสองข้างแย้งว่า “เราสิควรจะเป็นนายใหญ่ เพราะเราพาสมอง ไปไหนมาไหน และนำร่างกาย ไปสู่จุดหมายได้”
มือสองข้าง จึงพูดบ้างว่า “เราต่างหาก ที่ควรเป็นนายใหญ่เพราะเราทำงานทุกอย่าง และหาเงินมาเลี้ยงร่างกาย”
อวัยวะทั้งหลายต่างแสดงความเห็น และอ้างเหตุผลกันไปเรื่อย จนกระทั่งทวารหนักพูดบ้างว่าตัวเองควรเป็นนายใหญ่ ซึ่งทำให้อวัยวะอื่นๆ พากันหัวเราะเยาะ
ดังนั้นทวารหนักจึงเริ่มประท้วงด้วยการหยุดนิ่งไม่ทำงานถ่ายอุจจาระภายในเวลาไม่นาน ตาเริ่มเหร่ มือเริ่มบิดเกร็ง เท้าเริ่มกระตุก หัวใจและปอดเริ่มหวาดผวา สมองเริ่มมีไข้
ในที่สุดอวัยวะทุกส่วน จึงตัดสินใจมอบให้ทวารหนักเป็นนายใหญ่ของร่างกาย กระบวนการต่างๆ ในร่างกายจึงดำเนินต่อได้ตามปกติ
นับแต่นั้นมา อวัยวะทั้งหลาย ช่วยกันทำงานสำคัญของร่างกายอย่างเต็มที่ ในขณะที่ทวารหนัก ซึ่งเป็นนายใหญ่ เพียงแต่อยู่เฉยๆคอยระบายของเสียออกจากร่างกายเท่านั้น
ข้อคิดจากเรื่องนี้
การเป็นเจ้านายที่ดี ไม่จำเป็นต้องอาศัย ความฉลาดปราดเปรื่องมากนักหรอก เพียงสนับสนุนลูกน้อง ให้ทำงานเต็มความสามารถ อย่างมีความสุขก็เพียงพอแล้วความเห็นส่วนตัว
น่าจะจริงครับ แต่น่าจะอธิบายว่า การเป็นหัวหน้าหรือเจ้านายไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง แต่ต้องรู้จักประสานความเก่งของคนที่อยู่ในทีมงานแหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า -
นิทาน.. หัวหน้า เจ้านาย 2/3
Posted on May 11th, 2009 No commentsพ่อไก่งวงตัวหนึ่ง ปรารภกับพ่อวัว “ฉันอยากจะขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไม้ต้นนั้น” พูดพลางถอนใจพลาง “แต่ฉันไม่มีกำลัง เพียงพอจะบินถึง”
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ลองกิน อุจจาระของฉันดูบ้างล่ะ” พ่อวัวกล่าวแนะ “อุจจาระวัว อุดมด้วยสารอาหารมากมายนะ”
พ่อไก่งวงลองจิกกิน อุจจาระวัว ที่กองอยู่บนพื้นแล้วพบว่าทำให้มันมีพละกำลังมากขึ้นพอบินถึงกิ่งแรกของต้นไม้ วันต่อมามันจึงจิกกินอุจจาระวัวมาก ขึ้นอีกแล้วสามารถบินถึงกิ่งที่สองของต้นไม้ พ่อไก่งวงทำอย่างนั้นอยู่สองสัปดาห์ จนกระทั่งในที่สุด บินขึ้นไปเกาะอยู่ บนกิ่งไม้สูงสุดอย่างภาคภูมิใจ
ต่อมาไม่นาน ชาวนาผู้หนึ่งแลเห็นพ่อไก่งวงเป็นเป้าเด่นชัด จากที่ไกล จึงยิงมันร่วงตกจากยอดไม้ด้วยปืนยาว
ข้อคิดจากเรื่องนี้
จงรู้ไว้ว่า แม้การใช้วิธีสกปรก จะส่งให้ขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ก็ตาม แต่จะไม่คุ้มครอง ให้อยู่ที่นั่นได้ตลอดไปความเห็นส่วนตัว
ถึงแม้ว่าดูจะไม่เกี่ยวกันเลย แต่ก็เป็นข้อคิดที่ดีครับแหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า -
นิทาน.. หัวหน้า เจ้านาย 1/3
Posted on May 11th, 2009 No commentsอีกาตัวหนึ่งเกาะนิ่ง อยู่บนกิ่งไม้สูงตลอดทั้งวันโดยไม่ทำอะไร
กระต่ายตัวหนึ่ง เดินผ่านมาเห็นเข้าจึงถามว่า “ฉันอยากจะอยู่นิ่งเฉย และไม่ทำอะไรทั้งวันเหมือนท่านบ้างได้ไหม?”
อีกาส่งเสียงร้องตอบลงมาว่า “อ๋อ! ได้แน่นอนไม่มีใครห้ามแต่อย่างใด”
ดังนั้นกระต่ายจึงนอนหมอบนิ่งอยู่บนพื้นหญ้าใต้ต้นไม้ที่อีกาเกาะอยู่ แล้วพักผ่อนไปเรื่อยๆ ไม่นานนัก ก็มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง เดินผ่านมาพบเข้า มันจึงกระโดดเข้าขย้ำ และกินกระต่ายตัวนั้น เป็นอาหาร
ข้อคิดจากเรื่องนี้
ถ้าอยากจะอยู่นิ่งเฉย โดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องอยู่ในที่สูงสุด (สังเกตว่า หัวหน้า คือผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงแล้วมักจะไม่ทำอะไร ก็อยู่รอดได้)ความเห็นส่วนตัว
ผมคิดว่าในปัจจุบันจริงๆแล้วการเป็นหัวหน้า หรือเจ้านาย ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ผมเคยเป็นทั้งลูกน้อง และเจ้านาย การเป็นเจ้านายนอกจากต้องรับผิดชอบ และทำหน้าที่ต่างๆมากมายหลายด้านแล้ว สิ่งที่ต้องมีเพิ่มขึ้นคือความรับผิดชอบต่อลูกน้องด้วยแหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า -
คาถา 6 Ps – ช่วยทำงานอย่างมีความสุข
Posted on May 4th, 2009 No commentsคาถา 6 Ps
ให้หมั่นท่องไว้เสมอ แล้วจะเป็นคนทำงานที่มีความสุข มีผู้ชื่นชอบ อยากให้การสนับสนุน มีดังนี้1. Positive Thinking คือ การคิดบวก การมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่เป็นบวกอยู่เสมอ จะไม่มองอะไรในแง่ร้ายเลย ใครทำได้อย่างนี้จะไม่มีปัญหากันคนเลย
2. Peaceful Mind การมีจิตใจที่สงบ จะสร้างความสุขที่คนอื่นต้องอิจฉา เพราะใจเราจะไม่ดิ้นรน นิ่ง ไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ที่มีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง
3. Patient คือ การที่มีความอดทน คนเราจะให้ทุกอย่างเป็นตามใจเราคงยาก มันต้องมีช่วงที่เป็นของคนอื่นบ้าง แต่ถ้าเรารู้จักอดกลั้น อดทน รอคอยให้ถึงช่วงของเรา การแก่งแย่งชิงดี ย่อมไม่เกิดผลดี
4. Punctual คือ การตรงต่อเวลา การมีวินัย บ้านเราชอบหาข้อแก้ตัว รออีกหน่อยไว้ให้ลูกหลานเรามีวินัยก็แล้วกัน ทำไมเราไม่ทำเป็นตัวอย่าง นิ้วก้อยกับนิ้วหัวแม่มือ แม้มีขนาดไม่เท่ากันก็อยู่ในมือเดียวกัน ต้องทำหน้าที่พร้อมกันในเวลาหยิบของ จะเกี่ยงว่าตัวเล็กตัวใหญ่ไม่ได้ อย่าผิดคำพูด อย่าผิดนัด คนเป็นใหญ่ชอบไปงานช้า เพราะคิดว่าตนสำคัญคนอื่นต้องรอ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ คิดผิดนะ
5. Polite คือ ความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีตัวนี้มาก มีมากเท่าใดคนอื่นจะยิ่งเกรงมากขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่างเรื่องรวงข้าวที่มีเมล็ดข้าวมากเท่าใด ก็ยิ่งโน้มลงติดดินมากเท่านั้นช่อนั้นจะมีค่ามาก เพราะให้ผลผลิตดีกว่าช่อที่ยืนล้อลมได้สูงๆ แต่ไม่มีเมล็ด เกี่ยวไปแล้วก็ทิ้งเป็นฟาง เอาไปสีก็เปล่าประโยชน์
6. Professional หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ในงานของตนต้องรู้ ต้องทำอย่างดีที่สุด ต้องมีความรู้ ความสามารถอย่างมืออาชีพ ทำหน้าที่ให้เหมาะสม หมั่นฝึกปรือแสวงหาความรู้ให้ทันสมัยทันโลก
คาถาทั้งหกข้อนี้จะทำให้คุณมีจิตใจดี สงบ มุ่งมั่นอยู่กับงาน มองโลกในแง่บวก รู้ตน รู้สถานะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน พกสูตรนี้ไว้ โตวันโตคืน
แหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า -
ชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูก
Posted on May 4th, 2009 No commentsหากชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูกสลับกันไปในอากาศคล้ายนักเล่นกล บอลทั้ง 5 เปรียบได้กับ งาน, ครอบครัว, สุขภาพ, เพื่อน และจิตใจ เราคงต้องบอกว่า งานนั้นคงต้องเป็นลูกบอลยาง ซึ่งแม้ว่าเราจะพลาดพลั้งทำตกกี่ครั้งมันก็สามารถที่จะกระเด้งกระดอนกลับมาให้เรานำกลับมาเล่นต่อได้ แต่บอลอีก 4 ลูกที่เหลือ คือ ครอบครัว สุขภาพ เพื่อน และจิตใจนั้นเป็นเช่นลูกแก้ว การพลาดพลั้ง ทำลูกใดลูกหนึ่งตกไปนั้น แม้เป็นเพียงแค่รอยถลอก รอยตำหนิเล็กๆ รอยหักแหว่ง หรือแตกละเอียด ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นลูกแก้วที่แววใสดังเดิมได้
ดังนั้นเราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า…..ชีวิตเราคือ…..การต่อสู้ประคับประคองบอลทั้ง 5 ลูกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงให้สมดุลมากที่สุด….. ทำอย่างไรน่ะหรือ ?? อย่างแรก…..
** จงอย่าประเมินค่าของตัวเองให้ต่ำต้อย โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นพึงระลึกเสมอว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และทุกคนก็มีความพิเศษเป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า โดยการปล่อยเวลาให้ผ่านไป** จงคิดว่าทุกๆวันที่ผ่านพ้นไปคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่าเพิ่งละความพยายามเมื่อเจอปัญหา จงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นเมื่อคุณทิ้งความพยายามของคุณเอง
** จงอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนผมเส้นบางๆที่บังตาไม่ให้คุณมองเห็นผู้คน รอบข้าง
** จงอย่ากลัวการเสี่ยง เพราะมันคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ
** อย่าทิ้งความรักไปจากชีวิต โดยการบอกว่ามันไม่มีทางที่จะหาพบหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับ… ความรักคือการรู้จักให้ และการรักษาความรักที่ดีที่สุดคือ…การให้อิสระกับมัน จำไว้ว่ายิ่งคุณพยายามไขว่คว้ามันไว้กับตัวคุณมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะจากไปจากคุณได้เร็วเท่านั้น
** อย่าพิจารณาชีวิตของคุณเร็วเกินไป จนคุณลืมที่จะนึกว่าคุณมาจากที่ไหนและ…คุณกำลังจะไปที่ใด พึงตระหนักว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องการคือ…ความประทับใจ
**จงอย่ากลัวการรับรู้ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ความรู้นั้นไร้น้ำหนัก…แต่เป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่มันจะติดตัวคุณไป และจะไม่มีใครที่สามารถขโมยมันไปจากคุณได้
**จงใช้เวลาและคารมอย่างระมัดระวังเพราะทุกสิ่งที่ผ่านไปจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันจะไหลย้อนกลับ
** จงรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน แต่ชีวิตคือ.. การเดินทางคือ…การสัมผัสรับรู้ในแต่ละก้าวที่เดินไป
** และคนที่อยู้ใกล้ชิดคุณที่สุดหรือคนรักของคุณคุณควรจะถนอมน้ำใจเค้าให้มากการที่เค้าเรียกร้อง หรือทำให้ชีวิตส่วนตัวคุณหายไปบ้างนั่นคือเค้ายังรักคุณอยู่แต่ถ้าถึงวันไหนที่เค้าไม่ต้องการจากคุณอีกต่อไป ถึงแม้คุณจะคิดได้ในภายหลัง เค้าอาจจะไม่ต้องการอะไรจากคุณอีกเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นโปรดระลึกอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน
** และสุดท้าย จงจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ……..
แหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า