-
จงเชื่อมั่นในตนเอง กับ กบฟุ้งซ่าน
Posted on June 13th, 2009 No commentsกบ ฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมาถึงวัดเพื่อฉันเช้า… กบมันนึกในใจ อยากเกิดเป็น “พระ” เป็น พระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน ..
เมื่อพระฉันเสร็จ ก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อย .. ตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็น “เด็กวัด” แล้วเพราะสบายกว่าพระ มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้ สบายกว่าเยอะเลย…
เมื่อเด็กวัดกินเสร็จ ก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกิน แล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกันล้างจาน… ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็น “หมาวัด” แล้ว เพราะไม่ต้องล้างจานเหมือนเด็กวัด สบายกว่า …
พอหมาวัดกินอาหารเสร็จ ก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด คอยเห่าคนแปลกหน้า ฝูงแมลงวันก็บินมาตอม และกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจอยากเกิดเป็น “แมลงวัน” เพราะสบายที่สุด…. ไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย…
ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวันเข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ ..
ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่าน จึงบรรลุธรรมฉับพลัน (Sudden knowledge)
คิดได้ว่า เฮ้อ เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดเลย ( The best to be yourself)
จงเชื่อมั่นในตัวเอง ( Be yourself)แหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า -
ชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูก
Posted on May 4th, 2009 No commentsหากชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูกสลับกันไปในอากาศคล้ายนักเล่นกล บอลทั้ง 5 เปรียบได้กับ งาน, ครอบครัว, สุขภาพ, เพื่อน และจิตใจ เราคงต้องบอกว่า งานนั้นคงต้องเป็นลูกบอลยาง ซึ่งแม้ว่าเราจะพลาดพลั้งทำตกกี่ครั้งมันก็สามารถที่จะกระเด้งกระดอนกลับมาให้เรานำกลับมาเล่นต่อได้ แต่บอลอีก 4 ลูกที่เหลือ คือ ครอบครัว สุขภาพ เพื่อน และจิตใจนั้นเป็นเช่นลูกแก้ว การพลาดพลั้ง ทำลูกใดลูกหนึ่งตกไปนั้น แม้เป็นเพียงแค่รอยถลอก รอยตำหนิเล็กๆ รอยหักแหว่ง หรือแตกละเอียด ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นลูกแก้วที่แววใสดังเดิมได้
ดังนั้นเราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า…..ชีวิตเราคือ…..การต่อสู้ประคับประคองบอลทั้ง 5 ลูกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงให้สมดุลมากที่สุด….. ทำอย่างไรน่ะหรือ ?? อย่างแรก…..
** จงอย่าประเมินค่าของตัวเองให้ต่ำต้อย โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นพึงระลึกเสมอว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และทุกคนก็มีความพิเศษเป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า โดยการปล่อยเวลาให้ผ่านไป** จงคิดว่าทุกๆวันที่ผ่านพ้นไปคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่าเพิ่งละความพยายามเมื่อเจอปัญหา จงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นเมื่อคุณทิ้งความพยายามของคุณเอง
** จงอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนผมเส้นบางๆที่บังตาไม่ให้คุณมองเห็นผู้คน รอบข้าง
** จงอย่ากลัวการเสี่ยง เพราะมันคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ
** อย่าทิ้งความรักไปจากชีวิต โดยการบอกว่ามันไม่มีทางที่จะหาพบหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับ… ความรักคือการรู้จักให้ และการรักษาความรักที่ดีที่สุดคือ…การให้อิสระกับมัน จำไว้ว่ายิ่งคุณพยายามไขว่คว้ามันไว้กับตัวคุณมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะจากไปจากคุณได้เร็วเท่านั้น
** อย่าพิจารณาชีวิตของคุณเร็วเกินไป จนคุณลืมที่จะนึกว่าคุณมาจากที่ไหนและ…คุณกำลังจะไปที่ใด พึงตระหนักว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องการคือ…ความประทับใจ
**จงอย่ากลัวการรับรู้ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ความรู้นั้นไร้น้ำหนัก…แต่เป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่มันจะติดตัวคุณไป และจะไม่มีใครที่สามารถขโมยมันไปจากคุณได้
**จงใช้เวลาและคารมอย่างระมัดระวังเพราะทุกสิ่งที่ผ่านไปจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันจะไหลย้อนกลับ
** จงรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน แต่ชีวิตคือ.. การเดินทางคือ…การสัมผัสรับรู้ในแต่ละก้าวที่เดินไป
** และคนที่อยู้ใกล้ชิดคุณที่สุดหรือคนรักของคุณคุณควรจะถนอมน้ำใจเค้าให้มากการที่เค้าเรียกร้อง หรือทำให้ชีวิตส่วนตัวคุณหายไปบ้างนั่นคือเค้ายังรักคุณอยู่แต่ถ้าถึงวันไหนที่เค้าไม่ต้องการจากคุณอีกต่อไป ถึงแม้คุณจะคิดได้ในภายหลัง เค้าอาจจะไม่ต้องการอะไรจากคุณอีกเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นโปรดระลึกอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน
** และสุดท้าย จงจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ……..
แหล่งข้อมูล: Forword Mail
ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า