GoodToKnow.PureThailand.com

GoodToKnow.PureThailand.com รวมเรื่องน่ารู้จาก forward mail
RSS icon Home icon
  • การเลือกใช้ หลอดไฟ

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    เนื้อหา : พูดถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเลือกใช้หลอดไฟ
    ถามโดย : คุณชนิกานต์
    ตอบโดย : อ.ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์

    ๑. หลอดตะเกียบมีการโฆษณากันยกใหญ่เมื่อปีที่แล้ว มีการนำพรีเซนเตอร์ระดับชาติมาประชาสัมพันธ์ว่าประหยัดพลังงานและประหยัดชาติ ให้ช่วยๆกันใช้ โดยเน้นด้านการเปรียบเทียบกับ หลอดใส้

    ๒. ผู้โฆษณาหลอดตะเกียบไม่เคยเปรียบเทียบกับหลอดนีออนเลย หลอดนีออนในที่นี้เป็นภาษาชาวบ้าน เพราะจริงๆ แล้วก็คือหลอดฟลูออเสรเซ็นทฺนั่นเอง เพราะหากพิจารณาเรื่องประสิทธิภาพ Efficacy ของพลังงานที่ใช้ไป (watt) กับแสงสว่างที่ส่องออกมานั้น (lumen) จะพบว่า efficacy ของหลอดตะเกียบ เลวกว่าหลอดฟลูออเรสเซนท์ กล่าวคือ หลอดตะเกียบจะมี efficacy = 42.00 lumen/watt ส่วนหลอดฟลูออเรสเซนท์ = 57.80 lumen/watt

    Read the rest of this entry »

  • เรื่องควรรู้ เผื่อฉุกเฉิน

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    * เบรกรถยนต์ไม่ทำงาน
    ถ้าเหยียบเบรกแล้วเบรกจมหายไปเลย แต่รถไม่ช้าลงสักนิด อย่าตกใจ ถ้าคุณไม่ตกใจ ตัดสินใจและมีปฏิกิริยาตอบโตได้เร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสเอาตัวรอดได้มากขึ้นเท่านั้น คำแนะนำของเราก็คือ ถ้ามีรถติดอยู่ข้างหน้า และคุณกำลังจะพุ่งเข้าไปชน ขอให้ดึงเบรกมือให้สุดแรงเกิด แล้วเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ เพื่อใช้เครื่องฉุดรถยนต์เอาไว้ อย่าให้รถวิ่งเข้าไปชนขอบทาง เพราะจะทำให้รถเสียหลักได้ แต่ถ้ารถเสียหลักอย่าดึงหรือฉุดพวงมาลัยไว้ นั่นจะทำให้รถของคุณคว่ำ คอยประคองพวงมาลัยเอาไว้เท่านั้นก็พอ ถ้าจำเป็นต้องชนอะไรสักอย่างเพื่อหยุด เช่น ชนต้นไม้ ให้พยายามชนทางด้านข้าง อย่าพุ่งเข้าชนตรง ๆ เพราะมีโอกาสบาดเจ็บสาหัสมากกว่า

    * หมากัด
    Read the rest of this entry »

  • คาถา 6 Ps – ช่วยทำงานอย่างมีความสุข

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    คาถา 6 Ps
    ให้หมั่นท่องไว้เสมอ แล้วจะเป็นคนทำงานที่มีความสุข มีผู้ชื่นชอบ อยากให้การสนับสนุน มีดังนี้

          1. Positive Thinking คือ การคิดบวก การมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติที่เป็นบวกอยู่เสมอ จะไม่มองอะไรในแง่ร้ายเลย ใครทำได้อย่างนี้จะไม่มีปัญหากันคนเลย

          2. Peaceful Mind การมีจิตใจที่สงบ จะสร้างความสุขที่คนอื่นต้องอิจฉา เพราะใจเราจะไม่ดิ้นรน นิ่ง  ไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวตามกระแสที่ถูกปั่นจากผู้ที่มีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง

          3. Patient คือ การที่มีความอดทน คนเราจะให้ทุกอย่างเป็นตามใจเราคงยาก มันต้องมีช่วงที่เป็นของคนอื่นบ้าง แต่ถ้าเรารู้จักอดกลั้น อดทน  รอคอยให้ถึงช่วงของเรา การแก่งแย่งชิงดี ย่อมไม่เกิดผลดี

          4. Punctual คือ การตรงต่อเวลา การมีวินัย บ้านเราชอบหาข้อแก้ตัว รออีกหน่อยไว้ให้ลูกหลานเรามีวินัยก็แล้วกัน ทำไมเราไม่ทำเป็นตัวอย่าง  นิ้วก้อยกับนิ้วหัวแม่มือ แม้มีขนาดไม่เท่ากันก็อยู่ในมือเดียวกัน ต้องทำหน้าที่พร้อมกันในเวลาหยิบของ จะเกี่ยงว่าตัวเล็กตัวใหญ่ไม่ได้ อย่าผิดคำพูด อย่าผิดนัด คนเป็นใหญ่ชอบไปงานช้า  เพราะคิดว่าตนสำคัญคนอื่นต้องรอ แสดงถึงความยิ่งใหญ่ คิดผิดนะ

          5. Polite คือ ความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องมีตัวนี้มาก มีมากเท่าใดคนอื่นจะยิ่งเกรงมากขึ้นเท่านั้น  ยกตัวอย่างเรื่องรวงข้าวที่มีเมล็ดข้าวมากเท่าใด ก็ยิ่งโน้มลงติดดินมากเท่านั้นช่อนั้นจะมีค่ามาก เพราะให้ผลผลิตดีกว่าช่อที่ยืนล้อลมได้สูงๆ แต่ไม่มีเมล็ด  เกี่ยวไปแล้วก็ทิ้งเป็นฟาง เอาไปสีก็เปล่าประโยชน์

          6. Professional หมายถึงความเป็นมืออาชีพ ในงานของตนต้องรู้ ต้องทำอย่างดีที่สุด ต้องมีความรู้ ความสามารถอย่างมืออาชีพ ทำหน้าที่ให้เหมาะสม หมั่นฝึกปรือแสวงหาความรู้ให้ทันสมัยทันโลก

          คาถาทั้งหกข้อนี้จะทำให้คุณมีจิตใจดี สงบ มุ่งมั่นอยู่กับงาน มองโลกในแง่บวก รู้ตน รู้สถานะ ไม่คิดฟุ้งซ่าน พกสูตรนี้ไว้ โตวันโตคืน

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • ชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูก

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    หากชีวิตเราเปรียบเสมือนเกมโยนบอล 5 ลูกสลับกันไปในอากาศคล้ายนักเล่นกล บอลทั้ง 5 เปรียบได้กับ งาน, ครอบครัว, สุขภาพ, เพื่อน และจิตใจ เราคงต้องบอกว่า งานนั้นคงต้องเป็นลูกบอลยาง ซึ่งแม้ว่าเราจะพลาดพลั้งทำตกกี่ครั้งมันก็สามารถที่จะกระเด้งกระดอนกลับมาให้เรานำกลับมาเล่นต่อได้ แต่บอลอีก 4 ลูกที่เหลือ คือ ครอบครัว สุขภาพ เพื่อน และจิตใจนั้นเป็นเช่นลูกแก้ว การพลาดพลั้ง ทำลูกใดลูกหนึ่งตกไปนั้น แม้เป็นเพียงแค่รอยถลอก รอยตำหนิเล็กๆ รอยหักแหว่ง หรือแตกละเอียด ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขให้มันกลับมาเป็นลูกแก้วที่แววใสดังเดิมได้

    ดังนั้นเราจึงควรระลึกอยู่เสมอว่า…..ชีวิตเราคือ…..การต่อสู้ประคับประคองบอลทั้ง 5 ลูกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงให้สมดุลมากที่สุด….. ทำอย่างไรน่ะหรือ ?? อย่างแรก…..
    ** จงอย่าประเมินค่าของตัวเองให้ต่ำต้อย โดยการเปรียบเทียบกับคนอื่นพึงระลึกเสมอว่าเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และทุกคนก็มีความพิเศษเป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปอย่างไร้ค่า โดยการปล่อยเวลาให้ผ่านไป

    ** จงคิดว่าทุกๆวันที่ผ่านพ้นไปคือส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่าเพิ่งละความพยายามเมื่อเจอปัญหา จงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นเมื่อคุณทิ้งความพยายามของคุณเอง

    ** จงอย่ากลัวที่จะยอมรับว่าเราไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อมในทุกอย่าง เพราะการหลงตัวเองจะเปรียบเสมือนผมเส้นบางๆที่บังตาไม่ให้คุณมองเห็นผู้คน รอบข้าง

    ** จงอย่ากลัวการเสี่ยง เพราะมันคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ

    ** อย่าทิ้งความรักไปจากชีวิต โดยการบอกว่ามันไม่มีทางที่จะหาพบหนทางที่ง่ายที่สุดที่จะได้รับ… ความรักคือการรู้จักให้ และการรักษาความรักที่ดีที่สุดคือ…การให้อิสระกับมัน จำไว้ว่ายิ่งคุณพยายามไขว่คว้ามันไว้กับตัวคุณมากเท่าไรมันก็ยิ่งจะจากไปจากคุณได้เร็วเท่านั้น

    ** อย่าพิจารณาชีวิตของคุณเร็วเกินไป จนคุณลืมที่จะนึกว่าคุณมาจากที่ไหนและ…คุณกำลังจะไปที่ใด พึงตระหนักว่าความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องการคือ…ความประทับใจ

    **จงอย่ากลัวการรับรู้ หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ความรู้นั้นไร้น้ำหนัก…แต่เป็นทรัพย์สมบัติอันมีค่าที่มันจะติดตัวคุณไป และจะไม่มีใครที่สามารถขโมยมันไปจากคุณได้

    **จงใช้เวลาและคารมอย่างระมัดระวังเพราะทุกสิ่งที่ผ่านไปจะไม่สามารถย้อนกลับคืนมาได้เหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันจะไหลย้อนกลับ

    ** จงรู้ว่า ชีวิตไม่ใช่การแข่งขัน แต่ชีวิตคือ.. การเดินทางคือ…การสัมผัสรับรู้ในแต่ละก้าวที่เดินไป

    ** และคนที่อยู้ใกล้ชิดคุณที่สุดหรือคนรักของคุณคุณควรจะถนอมน้ำใจเค้าให้มากการที่เค้าเรียกร้อง หรือทำให้ชีวิตส่วนตัวคุณหายไปบ้างนั่นคือเค้ายังรักคุณอยู่แต่ถ้าถึงวันไหนที่เค้าไม่ต้องการจากคุณอีกต่อไป ถึงแม้คุณจะคิดได้ในภายหลัง เค้าอาจจะไม่ต้องการอะไรจากคุณอีกเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นโปรดระลึกอยู่เสมอว่าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เราจะอยู่ด้วยกัน

    ** และสุดท้าย จงจำไว้ว่า ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง ……..

    แหล่งข้อมูล: Forword Mail
    ผู้สนับสนุน: เพียวคาร์เร้นท์ โรงแรมเพียวแมนชั่น เพียววิลล่า

  • กระต่าย กับ หมี

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีกบวิเศษตนหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่าซึ่งเป็นป่าดงดิบลึกลับ ยากที่จะมีมนุษย์หรือสัตว์ชนิดใดเดินทางไปถึง แต่แล้ววันหนึ่งกบวิเศษได้ยินเสียงสัตว์สองชนิดวิ่งไล่กวดกันมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ที่แท้มันคือหมีตัวใหญ่กำลังไล่ล่ากระต่ายเจ้าเล่ห์เพื่อนำไปทำดินเนอร์มื้อเย็น

    กบวิเศษเรียกให้สัตว์ทั้งสองหยุดตอบข้อซักถามเพราะตลอดชีวิตของมันไม่เคยพบหมีและกระต่ายวิ่งไล่กันมาก่อน
    “เจ้าทั้งสองวิ่งกวดกันแทบเป็นแทบตายเพราะเหตุใดหรือ” กบถาม
    “มันจะจับข้าทำอาหาร” กระต่ายตอบลิ้นห้อยด้วยความเหนื่อย
    “อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง เอาเถอะ อย่าทำร้ายซึ่งกันและกันเลย เราจะให้พรวิเศษเจ้าตัวละ 3 ข้อ หวังว่าคงจะช่วยลดความขัดแย้งลงได้”

    Read the rest of this entry »

  • มะเร็ง-อาการ และวิธีสังเกต

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    ขออนุญาตนำเสนออาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย มาเพื่อโปรดทราบ เพื่อคอยสังเกตตัวเองและบุคคลในครอบครัว เพราะมะเร็งในระยะเริ่มแรก (ไม่เกินขั้นที่ 3) สามารถรักษาให้หายได้
    ด้วยความห่วงใย

    1. มะเร็งปากมดลูก
    อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้

    2. มะเร็งในมดลูก
    อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง

    3. มะเร็งรังไข่
    อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง

    Read the rest of this entry »

  • เขาว่าในข้าวกล้องมีสารก่อมะเร็งจริงหรือ ?

    Posted on May 4th, 2009 goodtoknow No comments

    เขาว่าในข้าวกล้องมีสารก่อมะเร็งจริงหรือ ?
    แพทย์หญิง กนกวรรณ พรประสิทธิ์
    ในท่ามกลางกระแสการรณรงค์ให้รับประทานข้าวกล้องเพื่อสุขภาพนั้น คำถามประโยคนี้คงจะไปสะดุดหูสะดุดใจอย่างแรงสำหรับนักมังสวิรัติ
    หรือนักชีวจิต ผู้ยึดการบริโภคข้าวกล้องเป็นสรณะ ข้าวกล้องมีสารก่อมะเร็งจริงหรือ?

    ตอบอย่างง่ายๆ ก็คือ จริงค่ะ แต่ถ้าตอบอย่างยากๆก็ต้องอธิบายกันยาวเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อนๆ ที่รับประทานข้าวกล้องอยู่แล้วคงจะสังเกตว่า ข้าวกล้องที่อยู่ในจานบางเม็ดมีสีน้ำตาลเข้มหรือดำแต้มอยู่มาก หรือเกือบทั้งเม็ด ตรงส่วนนี้แหละค่ะนักวิทยาศาสตร์ไทยได้สังเกตเช่นกัน และได้ลองนำไปเพาะเชื้อดู ปรากฏว่าเป็นเชื้อราแอสเปอร์จิรัส ซึ่งเป็นเชื้อราที่สร้างสารอะฟลาท็อกซินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตับ (ที่เคยทำให้เราตกใจมาแล้วกับเรื่องถั่วลิสง)

    Read the rest of this entry »